วิธีคำนวณค่าคอมมิชชั่น ต้องรู้ก่อนคุยกับนายหน้า

วิธีคำนวณค่าคอมมิชชั่น ต้องรู้ก่อนคุยกับนายหน้า

วิธีคำนวณค่าคอมมิชชั่น ต้องรู้ก่อนคุยกับนายหน้า

เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเวลาหรือช่องทางสื่อสารเพียงพอจนขายอสังหาริมทรัพย์สำเร็จได้ด้วยตัวเอง นายหน้าจึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยจัดการซื้อ ขาย หรือเช่าแทนเจ้าของบ้าน โดยแลกกับค่านายหน้าที่มีลักษณะเป็นแบบคอมมิชชั่น และก่อนที่จะตกลงว่าจ้าง เจ้าของบ้านต้องทราบวิธีคำนวณค่าคอมมิชชั่นไว้ เพื่อเตรียมตัวเจรจาตกลงกับนายหน้าได้อย่างเหมาะสม

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์คือใคร

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ คือ อาชีพหนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ มีหน้าที่เป็นตัวแทนเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในการนำทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นขายบ้าน คอนโด หรือ ที่ดิน ไปเสนอขายหรือปล่อยเช่าให้กับผู้ที่สนใจ เมื่อการซื้อขายสำเร็จ เจ้าของบ้านก็ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้แก่นายหน้าตามสัญญาที่ตกลงไว้ร่วมกัน แต่งานของนายหน้าไม่ได้มีแบบเดียวเท่านั้น โดยนายหน้าจะช่วยค้นหาและอำนวยความสะดวกในการซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ซื้อหรือผู้เช่าอีกด้วย

ประโยชน์ในการจ้างนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

หากจ้างนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ผู้ว่าจ้างก็ไม่ต้องหาช่องทางทำการตลาด ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ไม่ต้องเจรจาอธิบายและต่อรองกับทุกคน ไม่ต้องจัดการร่างสัญญา รวมถึงไม่ต้องแม้กระทั่งการโอนกรรมสิทธิ์หรือส่ง/รับมอบอสังหาฯ ที่จะเช่าเพราะสามารถมอบอำนาจให้นายหน้าดำเนินการแทนได้ ผู้ว่าจ้างจึงมีเวลาให้กับงานและชีวิตส่วนตัวได้ตามปกติ

การคิดค่าคอมมิชชั่นให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์

ใครเป็นผู้จ่ายค่าคอมมิชชั่น

เมื่อการซื้อขายหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์เสร็จสิ้น ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้นายหน้าทันที หากผู้ว่าจ้างเดินทางไปโอนกรรมสิทธิ์หรือส่ง/รับมอบอสังหาฯ สำหรับเช่า ก็ต้องเตรียมเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คไปด้วย ในกรณีซื้อขายนั้น ถ้าค่าคอมมิชชั่นสูงเกินกว่าผู้ว่าจ้างจะเตรียมเงินได้ล่วงหน้า ก็ใช้วิธีเรียกเก็บเงินมัดจำกับผู้ซื้อตอนทำสัญญาจะซื้อจะขายให้เพียงพอต่อค่าคอมมิชชั่น โดยอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในวันโอนกรรมสิทธิ์ด้วยก็ได้

ค่าคอมมิชชั่นของผู้ประสานงาน

ในระหว่างที่นายหน้ามองหาผู้ซื้อ ผู้ขาย หรือผู้เช่าให้ผู้ว่าจ้าง นายหน้าอาจประสานงานกับคนรู้จักอีกหลายทอดกว่าผู้ซื้อและผู้ขายจะได้พบกัน ซึ่งตามมารยาทแล้ว ผู้ประสานงานทุกคนต้องได้รับค่าตอบแทนด้วย แต่นั่นก็เป็นเรื่องระหว่างนายหน้ากับผู้ประสานงานจะตกลงกัน ผู้ว่าจ้างไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มจากที่เคยตกลงไว้กับนายหน้าของตัวเองอีก

อัตราค่าคอมมิชชั่นนายหน้า

ตามมาตรฐานโดยทั่วไป ค่าคอมมิชชั่นนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์จะคิดในอัตรา 3% จากราคาขาย และอาจสูงหรือต่ำกว่านั้น ขึ้นอยู่กับพื้นที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ ความยากง่ายในการซื้อขาย มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ ระยะจนเวลากว่าจะขายได้ และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ได้ตกลงกันไว้

แต่ถ้าเป็นค่าคอมมิชชั่นในการจัดหาอสังหาริมทรัพย์ ก็จะขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างนายหน้ากับผู้ว่าจ้าง หรือนายหน้าอาจไปตกลงขอค่าคอมมิชชั่นจากผู้ขายเองก็ได้ แต่ตามกฎของสภานายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย จะกำหนดให้นายหน้าจะต้องรับค่าตอบแทนจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

ส่วนค่าคอมมิชชั่นสำหรับนายหน้าปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์จะคิดในอัตราค่าเช่า 1 เดือนต่อสัญญาเช่า 12 เดือนขึ้นไป และเป็นการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพียงครั้งเดียวเมื่อทำสัญญาเช่า หลังจากนั้นผู้เช่าจะเช่าต่อหรือไม่ ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับนายหน้าอีก

วิธีคำนวณค่าคอมมิชชั่น

การคำนวณค่าคอมคอมมิชชั่นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงทราบถึงอัตราค่าคอมมิชชั่นที่ถูกต้อง ก็จะสามารถคำนวณได้อย่างง่ายดาย โดยมีตัวอย่างการคำนวณดังนี้

  • กรณีขายบ้านราคา 5,000,000 บาท และตกลงค่าคอมมิชชั่นที่ 3%
  • เมื่อนายหน้าขายบ้านได้สำเร็จ เจ้าของบ้านจะต้องจ่ายให้นายหน้า (5,000,000 x 3) / 100 = 150,000 บาท หรือตกลงเงื่อนไขพิเศษว่า ถ้าขายได้ภายใน 1 เดือน จะให้ค่าคอมมิชชั่น 4% เมื่อนายหน้าทำได้ ก็ต้องจ่าย (5,000,000 x 4) / 100 = 180,000 บาท

ทั้งนี้ หากผู้ว่าจ้างเป็นนิติบุคคล ก็มีหน้าที่จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% จากค่าคอมมิชชั่นเพื่อยื่นให้กรมสรรพากรด้วย เช่น ค่าคอมมิชชั่น 150,000 บาท ก็จะต้องหักภาษี (150,000 x 3) / 100 = 4,500 บาท

 

จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การฝากให้นายหน้าเป็นธุระในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก และการคิดค่าคอมมิชชั่นที่จะต้องจ่ายก็ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่ต้องเข้าใจหลักการและตกลงกับนายหน้าอย่างถูกต้อง เมื่อรู้เกี่ยวกับประโยชน์และค่าคอมมิชชั่นสำหรับตอบแทนนายหน้าแล้ว ก็มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและวิธีเลือกนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ตัวช่วยจำเป็นกันเลย

 

 

 Credit : DDproperty

Top